ในฤดูกาลนี้ สโมสรที่เดินหน้าในตลาดซื้อขายได้อย่างเร้าใจที่สุดในพรีเมียร์ลีก ได้แต่สโมสรลิเวอร์พูล
ทีมอื่นๆ ซื้อบิ๊กเนมมาแค่ 1-2 รายเท่านั้น แมนฯซิตี้ ซื้อริยาด มาห์เรซ , แมนฯยูไนเต็ด ซื้อเฟร็ด หรือเชลซี ซื้อจอร์จินโญ่ แต่ลิเวอร์พูลจนถึงเวลานี้ คว้าตัวมาแล้ว 3 คน และน่าจะเป็นคนที่ 4 คืนนี้ ซึ่งแต่ละคนล้วนเป็นบิ๊กเนมทั้งสิ้น
เจอร์เก้น คล็อปป์เคยให้สัมภาษณ์ว่า ทีมลิเวอร์พูลชุดปัจจุบันมีองค์ประกอบที่ดีอยู่แล้ว เพราะถ้าไม่ดีจริง คงไม่สามารถเข้าไปถึงรอบชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้ ดังนั้นเขาจะไม่ซื้อนักเตะเข้ามาเสริมทัพมากเกินไป จะซื้อเข้ามาแค่จุดที่คิดว่าทีมต้องมีพัฒนาการเท่านั้น
4 คนที่หงส์แดงซื้อมีใครบ้าง และ แต่ละคนจะเข้ามาสร้างจุดแข็งให้ลิเวอร์พูลได้อย่างไร?
1) นาบี เกอิต้า
ตำแหน่งแรก ได้แก่ มิดฟิลด์หมายเลข 8 ของทีม นาบี เกอิต้าจากสโมสรไลป์ซิก ย้ายมาลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 52.75 ล้านปอนด์ ย้ายมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้
จริงๆแล้ว ลิเวอร์พูล ซื้อเกอิต้าเอาไว้ตั้งแต่ซัมเมอร์ปีที่แล้ว แต่ ไลป์ซิก ต้องการตัวเกอิต้าเอาไว้ช่วยทีม ในแชมเปี้ยนส์ลีกก่อน ดังนั้นหงส์แดง ต้องรอจนถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ถึงจะได้ตัวมาครอบครอง
สื่อเยอรมัน ยกให้เกอิต้า เป็นกองกลางที่มีส่วนผสมของเอ็นโกโล่ ก็องเต้ กับ ฟรองค์ ริเบรี่ นั่นคือ ตัวเล็กคล่องเร็ว เล่นเกมรับดี และเติมขึ้นไปเล่นเกมรุกได้อย่างยอดเยี่ยม
ฤดูกาลที่แล้ว เกอิต้า ลงเล่นไป 38 นัดทุกรายการ และยิงได้ 9 ลูกกับอีก 7 แอสซิสต์ ซึ่งถือว่าสูงกว่ามิดฟิลด์ตัวกลางทั่วไป จะเห็นได้ว่าเขามีเซนส์ที่ดีมากในการเล่นเกมรุก
มิดฟิลด์ที่ขับเคลื่อนได้ดี และพร้อมจะวิ่งทั่วสนาม ซีซั่นก่อนอาจมีเอ็มเร่ ชาน แต่เมื่อชานย้ายออกไป ทำให้เกอิต้า จะเข้ามาอุดรอยรั่วตรงนีได้พอดี
โดยเกอิต้า ลงสนามในเกมอุ่นเครื่องของลิเวอร์พูลมาแล้ว 3 นัด ผลงานโดยรวมถือว่าน่าประทับใจ และเข้ากับระบบได้ดี น่าจะเป็นความหวังของทีมได้ต่อไป
2) ฟาบินโญ่
ปัญหาที่ลิเวอร์พูลต้องเจออีกอย่างคือ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ยังคงต้องพักรักษาตัวต่อไป โดยคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณ 8 เดือน กว่าอาการเจ็บที่เข่าจะหายกลับมาเป็นปกติ
นั่นทำให้แผงมิดฟิลด์ของทีมจะหายไปอีกหนึ่งคน และต้องหาตัวใหม่ เข้ามาทดแทน ซึ่งก็ได้แก่ “ฟาบินโญ่” มิดฟิลด์ชาวบราซิล จากสโมสรโมนาโก
รายงานเผยว่า หงส์แดงจ่ายเงิน 43.7 ล้านปอนด์ เพื่อซื้อ ตัว ฟาบินโญ่มาครอบครอง ตั้งแต่ช่วงก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่ม โดยจุดเด่นของฟาบินโญ่ คือ มิดฟิลด์ตัวรับ ที่เล่นเกมป้องกันได้อย่างเหนียวแน่น นอกจากนั้น ยังมีทีเด็ดที่การยิงไกลอีกด้วย
ในซีซั่นที่แล้ว กองกลางตัวรับธรรมชาติ ลิเวอร์พูลไม่มีเลย หลังขายลูคัส เลย์ว่า ให้ลาซิโอ แต่ก็ต้องใช้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน มายืนเป็นการเฉพาะกิจไปก่อน ดังนั้นการมีฟาบินโญ่ จึงสามารถนำมาหมุนเวียนกับเฮนเดอร์สันได้ และอาจดันเฮนโด้ไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง
การซื้อตัวใหม่มา 2 ราย ทำให้ลิเวอร์พูลจะมีมิดฟิลด์ตัวกลาง 6 คน ได้แก่ เกอิต้า ฟาบินโญ่ ,จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์ และมาร์โก กรูยิช ที่จะกลับมาจากการยืมตัว โดยทั้ง 6 คนจะหมุนเวียนลงเล่นตลอดซีซั่น
3) เซอร์ดาน ชาคิรี่
ส่วนในตำแหน่งตัวรุก ก็เป็นจุดที่เจอร์เก้น คล็อปป์ตามหามาตลอดเช่นกัน เพราะในซีซั่นที่แล้ว ทีมฝากความหวังเอาไว้แค่สามประสาน โมฮาเหม็ด ซาลาห์, แดเนียล สเตอร์ริดจ์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ซึ่งเมื่อสามคนนี้ไม่ได้ลงพร้อมกัน ทีมหงส์แดงจะมีปัญหาทันที
นักเตะคนอื่นๆยังไม่สามารถทดแทนได้ ทั้งดาวรุ่ง โดมินิค โซลันกี้ ,แดนนี่ อิงส์ รวมไปถึง อดัม ลัลลาน่า
ซีซั่นนี้ คล็อปป์เรียกคนที่ปล่อยให้ยืมตัว กลับคืนสู่ทีมทั้งหมด ทั้งแดเนียล สเตอร์ริดจ์ และ ดิว็อค โอริกี้ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนยังไม่เพียงพอ ทีมต้องการแนวรุกคุณภาพอีกอย่างน้อย 1 คน
ในตอนแรกลิเวอร์พูลมีข่าว กับนาบิล เฟคีร์ ดาวเตะของโอลิมปิก ลียง โดยข่าวว่าลิเวอร์พูล พร้อมจ่ายเงินถึง 58 ล้านปอนด์ เพื่อดึงเฟคีร์มาเสริมทัพ
อย่างไรก็ตาม การเจรจาแม้จะเกิดขึ้นจริง แต่ทั้งสองสโมสรไม่สามารถตกลงกันได้ ทำให้ทางลียง ออกมาประกาศยุติการเจรจา ก่อนที่ฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้น
จากสาเหตุนี้ ทำให้ลิเวอร์พูล ต้องหันไปมองที่เป้าหมายอื่น โดยมีสเป็คคือตัวรุกที่เล่นได้หลายตำแหน่งในแผงหน้า ทั้งปีกซ้าย และปีกขวา ซึ่งหลังจากพิจารณาหลายตัวเลือก ในที่สุด ทีมหงส์แดง ก็จ่ายเงิน 13.5 ล้านปอนด์ ซื้อเซอร์ดาน ชาคิรี่ มาจากสโต๊ค ซิตี้ ที่ตกชั้นไปแล้ว
ชาคิรี่ ปัจจุบันอายุ 26 ปี เท่ากับซาลาห์ ,ฟีร์มีโน่ และ มาเน่ ทั้งหมดยังสามารถเล่นร่วมกันไปได้อีกนาน นอกจากนั้น ยังพิสูจน์ตัวเองแล้ว ว่าปรับตัวกับเกมพรีเมียร์ลีกได้สบายๆ ดังนั้น การย้ายมาอยู่ลิเวอร์พูล จึงมั่นใจว่า น่าจะเล่นได้แน่
ขณะที่ราคาซื้อขายก็แค่ 13.5 ล้านปอนด์ ถือว่าเหมาะสม กับนักเตะดีกรีทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์แบบนี้ ไม่ได้แพงเกินไปเหมือนในกรณีของเฟคีร์
ดังนั้น การได้ตัวชาคิรี่มา ก็จะทำให้แนวรุกของลิเวอร์พูล มีองค์ประกอบครบถ้วนหมดแล้ว พวกเขาไม่จำเป็นต้องซื้อใครเพิ่มอีก ถ้าหาก ไม่ได้ขายใครออกไป ถือว่ามีเพียงพอต่อการใช้งาน
4) อลิสซอน เบ็คเกอร์
และตำแหน่งสุดท้ายที่จะมีการปิดดีลใน 24 ชั่วโมงนี้ คือ นายทวารชาวบราซิล อลิสซอน เบ็คเกอร์ จากโรม่า
อลิสซอน ได้รับการยกย่องว่าเป็นนายทวาร ระดับท็อปไฟว์ของโลก เขามีผลงานที่ดีเยี่ยมกับโรม่า และเป็นมือหนึ่งทีมชาติบราซิลคนปัจจุบัน
ลิเวอร์พูลมีปัญหาอย่างรุนแรง กับปัญหานายทวาร เพราะทั้งซิมง มิโญเล่ต์ และ โลริส คาริอุส ยังไม่ตอบโจทย์ โดยเฉพาะรายหลัง คาริอุส เสียความมั่นใจอย่างรุนแรงในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกนัดชิงชนะเลิศ จนทำให้แฟนๆหงส์แดงไม่ไว้วางใจเขาอีกแล้ว
เจอร์เก้น คล็อปป์ มีงบประมาณเหลือ และมีโอกาสที่จะซื้ออลิสซอน เนื่องจากเรอัล มาดริด ที่เล็งไว้ตอนแรก ดูจะต้องการธีโบต์ กูร์กตัวส์มากกว่า ดังนั้นจึงไม่คิดจะซื้ออลิสซอนอีก ลิเวอร์พูลจึงกลับมาเจรจาอีกครั้ง
ข้อเสนอครั้งแรก ทีมหงส์แดง พร้อมจ่าย 62 ล้านปอนด์ แต่โรม่าไม่ตกลง และเรียกข้อเสนอมาที่ 66.8 ล้านปอนด์ ซึ่งลิเวอร์พูลยอมจ่าย
ตอนนี้ อลิสซอน เดินทางมาอังกฤษ เพื่อเตรียมตรวจร่างกาย และคาดว่าจะมีการชูเสื้ออย่างเป็นทางการใน 24 ชั่วโมงนี้ และเมื่ออลิสซอนย้ายมาเรียบร้อย ทีมหงส์แดง ก็จะขาย คาริอุส หรือ มิโญเลต์ คนใดคนหนึ่ง
———————————–
ทั้งนี้ จากเป้าหมายการซื้อตัวบิ๊กเนมถึง 4 คน ทำให้สำนักพนันถูกกฎหมายในอังกฤษ ปรับราคาลิเวอร์พูล ขึ้นมาเป็นเต็ง 2 ที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ตามหลังแค่แชมป์เก่าแมนฯซิตี้ ทีมเดียวเท่านั้น
โดยแหล่งข่าวในเมืองลิเวอร์พูลรายงานว่า การได้อลิสซอนมา น่าจะเป็นคนสุดท้ายของลิเวอร์พูลในตลาดซื้อขายครั้งนี้แล้ว เนื่องจากใช้เงินซื้อนักเตะทั้ง 4 คนรวมมูลค่า เกือบ 177 ล้านปอนด์
น่าติดตามกันต่อไปว่า ถ้าลิเวอร์พูลได้ผู้เล่นตัวหลักครบทั้งหมด พวกเขาจะไปได้ไกลแค่ไหน และจะทำอันดับดีขึ้นกว่าที่ 4 ในฤดูกาลที่แล้วหรือไม่ ต้องมาลุ้นกัน
